แหล่งรวม ธุรกิจ บริษัท ห้างร้าน และ ข้อมูล การท่องเที่ยว ในแถบ อันดามัน
 
เข้าสู่ระบบ G! Builder
เลือกจังหวัด
ข่าวสาร ข่าวทั่วไป ภายในประเทศ

สางคดีเผารร. สอบสส.ทรท. อดีตเลขาฯทักษิณ ( ข่าวทั่วไป )

ภาพประกอบ ข่าวสาร ข่าวทั่วไป : สางคดีเผารร. สอบสส.ทรท. อดีตเลขาฯทักษิณ

จากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางเพลิงเผาโรงเรียนบ้านสกัดนากวิทยา โรงเรียนชั้นประถม 1-6 ตั้งอยู่ริมถนนสายเสิงสาง-หนองกี่ หมู่ 3 ต.สุขไพบูลย์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา เป็นเหตุให้อาคารเรียน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ 8 ห้องเรียน รวมทั้งอุปกรณ์การเรียน การสอน หนังสือ โต๊ะ เก้าอี้ จานรับสัญญาณดาวเทียม และคอมพิวเตอร์ ถูกเพลิงเผาวอด มูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.สถาพร หลาวทองผบช.ภ.3 ตั้งเงินรางวัลนำจับจำนวน 1 แสนบาท สำหรับผู้ที่ชี้เบาะแสคนร้ายลอบวางเพลิงเผาโรงเรียนในครั้งนี้นั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวานนี้ (18 ธ.ค.) นักเรียนโรงเรียนบ้านสกัดนากวิทยา พากันเดินทางมาเรียนตามปกติ แต่ต้องใช้อาคารอเนกประสงค์เป็นสถานที่เรียนชั่วคราว คณะครูโรงเรียนใกล้เคียงและชาวบ้านช่วยกันขนโต๊ะ เก้าอี้ และกระดานดำ ใส่รถบรรทุกมาให้ยืมใช้ ชั่วคราวไปก่อน นอกจากนี้ ยังมีประชาชนจากหมู่บ้านต่างๆ นำข้าวสาร อาหารแห้ง และเงินมาบริจาคเพื่อแสดงความห่วงใย โดยมีผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านสกัดนากช่วยกันรับบริจาคไว้ ขณะที่บรรยากาศการเรียนของเด็กนักเรียนเป็นไปด้วยความเงียบเหงาท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น และลมกระโชกตลอดทั้งวัน ทำให้เด็กนักเรียนพากันบ่นเป็นเสียงเดียวกันถึงอากาศที่หนาวเย็น

นอกจากนี้ ทางโรงเรียนยังนำตู้บริจาคมาตั้งรับบริจาคหน้าอาคารเรียน เพื่อนำเงินที่ได้จากการบริจาคมาซื้ออุปกรณ์การเรียน และเครื่องนุ่งห่มกันหนาวให้กับเด็กนักเรียน และช่วงบ่ายวันเดียวกัน ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครราชสีมา เขต 3 ส่งเจ้าหน้าที่เดินทางมามอบอุปกรณ์การเรียนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น รวมทั้งมีการหารือถึงเรื่องการสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ด้วย คาดว่าจะต้องดำเนินการสร้างโดยด่วนเพราะช่วงนี้อากาศเริ่มหนาวเย็นอาจทำให้เด็กนักเรียนไม่สบายได้

พ.ต.อ.กรกต สาริยา รอง ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา และโฆษกตำรวจภูธรภาค 3 กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีนี้ว่า จนถึงขณะนี้พนักงานสอบสวนสอบปากคำพยานไปแล้วกว่า 10 ปาก โดยตั้งประเด็นในการสอบสวนว่า สาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้นั้นเป็นการกระทำของบุคคลคือการลอบวางเพลิงเพื่อต้องการสร้างสถานการณ์ ส่วนกรณีเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรนั้นตำรวจตัดออกไปแล้ว เพราะจากการตรวจที่เกิดเหตุของตำรวจวิทยาการพบคัตเอาต์ไฟฟ้าที่ตกอยู่มีการสับสะพานไฟลง ตรงกับคำให้การของผู้อำนวยการโรงเรียนและครูรวมถึงภารโรงที่อยู่เวรในคืน เกิดเหตุว่าได้สับคัตเอาต์ลงในตอนหลังเลิกเรียนทุกวัน

โฆษกตำรวจภูธรภาค 3 กล่าวอีกว่า พนักงานสอบสวนเชิญนายสุพร อัตถาวงศ์ อดีต ส.ส.นครราชสีมา และอดีตเลขานุการนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รวมถึง ส.จ. และนายก อบต.สุขไพบูลย์ เข้าให้ปากคำที่ สภ.อ.เสิงสาง ในวันที่ 19 ธ.ค. เวลา 10.00 น. เพื่อจะดูว่ามีความเชื่อมโยงกันอย่างไรหรือไม่ นอกจากนี้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ยังได้สั่งการให้ตำรวจภูธรจังหวัดทั้ง 8 จังหวัดในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 ประกอบด้วย จ.นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ และยโสธร จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ไปปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับครูในโรงเรียนที่ล่อแหลม มีสภาพอาคารเรียนที่เก่ามีอายุการใช้งานมานานตลอดจนมีครูจำนวนน้อยและมีครูผู้หญิงอยู่มาก เพื่อป้องกันการเกิดเหตุลอบเผาโรงเรียนเกิดขึ้นอีก

ต่อมาเวลา 15.00 น. พล.ต.ต.อำนาจ อันอาตม์งาม ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา พร้อมคณะเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุโรงเรียนบ้านสกัดนากวิทยา อย่างละเอียดอีกครั้งพร้อมเผยว่า สำหรับประเด็นที่ตั้งไว้ก็ยังคงเป็นแนวทางที่กำหนดไว้เดิมคือ เรื่องวางเพลิง กระทำการโดยประมาท และอุบัติเหตุ ยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง ส่วนประเด็นอุบัติเหตุคงเป็นไปไม่ได้ น่าจะเกิดจากการกระทำของบุคคลส่วนจะเป็นการกระทำโดยประมาท หรือเป็นการวางเพลิงอันเนื่องจากสาเหตุใดๆ ตอนนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการเร่งรัดดำเนินการ ซึ่งตนสั่งตั้งชุดปฏิบัติการทั้งฝ่ายสอบสวนและสืบสวน เข้าไปดำเนินการในพื้นที่ รวมถึงการประสานการปฏิบัติกับเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการอีกส่วนหนึ่งด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนในพื้นที่ จ.นครราชสีมาถึง 4 ครั้งแล้ว รู้สึกหนักใจหรือไม่ พล.ต.ต. อำนาจกล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียใจว่าได้เกิดขึ้นกับโรง-เรียน จะโดยสาเหตุใดก็ตามทำให้เด็กนักเรียนที่เรียนหนังสือในโรงเรียนได้รับความเดือดร้อน ซึ่งตนจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาหาทางแก้ไขปัญหาในเรื่องของความเดือดร้อนในส่วนของนักเรียนเร่งด่วน ตอบข้อถามอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นการสร้างสถาน-การณ์เพื่อให้เกิดแรงกระเพื่อมคลื่นใต้น้ำหรือไม่ ผบก.ภ.จ. นครราชสีมากล่าวว่า คงต้องแยกแยะกันให้ชัดเจนระหว่างคดีที่เกิดขึ้นกับสถานการณ์ โดยจากข้อมูลหลักฐานที่เราตรวจสอบเป็นเพียงคดีเพลิงไหม้คดีหนึ่ง ซึ่งเราให้ความสำคัญมาก เพราะนักเรียนได้รับความเดือดร้อน ส่วนสถาน-การณ์คลื่นใต้น้ำเป็นเพียงแค่ข่าวสาร

พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วย ผบ.ทบ. และผู้ช่วยเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ คมช. กล่าวถึงกรณี ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนหลายแห่งในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ว่า ต้องไปถามคนทำดีกว่าว่าทำไมถึงได้ก่อเหตุ ทั้งนี้ คมช.ดูแลความปลอดภัยเหมือนเดิม ไม่ได้ปล่อยปละละเลย เมื่อถามว่า เท่าที่ประเมินสถานการณ์ คมช. เป็นห่วงจุดใดเป็นพิเศษ พล.อ.สพรั่งกล่าวว่า จะไปบอกว่าเป็นห่วงจุดใดตรงไหนคงไม่ได้ หากบอกว่าห่วงจุดนั้น เดี๋ยวเขาก็ไปทำตรงจุดอื่น ทั้งนี้ คมช.ได้แก้จุดบกพร่องในการกำกับดูแลโดยให้นโยบาย พล.ท.สุเจตน์ วัฒนสุข แม่ทัพภาคที่ 2 และ พล.ท.จิรเดช คชรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 ไปแล้วว่าจุดใดที่ยังไม่ได้ทำความเข้าใจกับสถานที่ และมีแนวโน้มว่าจะเป็นจุดเกิดเหตุก็ใช้มาตรการ หรือทำให้เกิดความเข้าใจพร้อมกัน

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ได้สั่งการให้ทีมงานลงไปประเมินสถานการณ์กลุ่มเคลื่อนไหวที่ต่อต้านการทำงานของ คมช. และรัฐบาลแล้วเป็นอย่างไรบ้าง พล.อ.สพรั่งกล่าวว่า อยู่ในเกณฑ์ดีไม่รุนแรง เพราะมีสัญญาณจากพื้นที่หรือกลุ่มบุคคลต่างๆ ว่าจะร่วมมือแก้ไขปัญหากับ คมช.และรัฐบาล แต่ต้องดูความจริงใจด้วย ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของเราจะต้องหาจุดอ่อนตัวเองให้เจอ และแก้ไขให้ดีขึ้น ทั้งนี้ คมช.ไม่ได้เป็นห่วงสถานการณ์ที่จะมีกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านมากขึ้น เพราะจุดที่ทำมันไม่ใช่จุดเป็นจุดตาย ไม่ใช่เรื่องท้าทาย

ด้าน พล.ท.จิรเดช คชรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า สถานการณ์ในพื้นที่ภาคเหนือไม่มีอะไร ส่วนใหญ่สงบเรียบร้อยดีไม่น่าเป็นห่วง แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ โรงเรียนในหลายพื้นที่ของประเทศ จึงได้ทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้กำกับการสถานีตำรวจ และผู้บริหารโรงเรียนต่างๆ ให้ตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า ทั้งสาย ไฟฟ้าเก่า ฟิวส์ หรือวัสดุเชื้อเพลิงที่คาดว่าจะเป็นเชื้อ เพลิงทำให้เกิดเพลิงไหม้ ซึ่งจะต้องตรวจสอบให้ละเอียด เมื่อถามว่าเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นหลายจุดเป็นไปได้หรือที่จะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ไม่ใช่พวกที่ต่อต้าน คมช. พล.อ. จิรเดชกล่าวว่า ได้สั่งการให้มีการสำรวจรายละเอียดอย่างรอบคอบ จะได้ไม่มีข้ออ้างว่าเกิดจากไฟช็อต ดังนั้น หาก เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นผู้บริหารโรงเรียนต้องรับผิดชอบ

ต่อข้อถามอีกว่า เป็นไปได้หรือไม่ยังมีกลุ่มเคลื่อน ไหวต่อต้านการทำงานของ คมช. พยายามสร้างสถานการณ์ ให้เกิดความวุ่นวาย พล.ท.จิรเดชกล่าวว่า ในพื้นที่เราประมาทไม่ได้ ต้องติดตามสถานการณ์ตลอดเวลา เมื่อถามว่า เบื้องต้นประเมินสถานการณ์ว่าเหตุการณ์อยู่ในระดับใด พล.ท.จิรเดชกล่าวว่า คิดว่าไม่น่าจะเกิดอะไรรุนแรงมาก เพราะกองทัพภาคที่ 3 ติดตามควบคุมดูแล สถานการณ์ตลอด เมื่อถามว่า สรุปได้หรือไม่ว่าเหตุเพลิงไหม้เป็นฝีมือต่อต้านการทำงานของ คมช. พล.ท.จิรเดชกล่าวว่า ยังสรุปไม่ได้ เพราะเราดูภาพรวมเฉพาะในพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 เมื่อถามว่า พล.อ.สพรั่ง ผู้ช่วยผบ.ทบ. และผู้ช่วยเลขาธิการ คมช. สั่งให้จับตาดูกลุ่มหัวคะแนนของฐานเสียงอำนาจเก่าในแต่ละพื้นที่หรือไม่ พล.ท.จิรเดชกล่าวว่า ติดตามดูแลทั่วไป แต่ไม่ได้เจาะจงว่าจะเป็นใคร ทั้งนี้ ทางเรามีมาตรการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่

นายวิจิตร ศรีสอ้าน รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีโรงเรียนใน จ.นครราชสีมา ถูกลอบวางเพลิง ว่า ทางกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ประสานให้ฝ่ายปกครองและฝ่ายความมั่นคงตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ โรงเรียนทุกแห่ง พบว่าบางโรงเรียนเป็นการลอบวางเพลิง ขณะที่บางแห่งก็ไม่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม มองว่าการลอบวางเพลิงโรงเรียนเป็นการกระทำที่แปลก เพราะการศึกษาไม่ได้เป็นพิษเป็นภัย แต่เป็นประโยชน์ต่อบุตรหลานของผู้ที่ลอบวางเพลิงเอง เหตุผลของการกระทำครั้งนี้ คงเหมือนภาคใต้ที่มีการเผาโรงเรียน เพราะต้องการให้ ได้รับความสนใจ เย้ยอำนาจรัฐ ซึ่งการสร้างสถานการณ์ดังกล่าว เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อรัฐบาลเท่าใดนัก และเป็นแค่การส่งสัญญาณเตือนว่าอะไรอาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งทางฝ่ายความมั่นคงคงหาทางแก้ปัญหาได้ และไม่ ปล่อยให้เหตุการณ์บานปลาย

รมว.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า ความจริงกระทรวงศึกษาธิการมีมาตรการรักษาความปลอดภัยจัดเวรยามเฝ้าโรงเรียนอยู่แล้ว แต่เมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นอีก จะหารือกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ว่าจำเป็นต้องเพิ่มความเข้มงวดของการรักษาความปลอดภัยหรือไม่ และจะประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ลาดตระเวนโรงเรียนบ่อยขึ้น ?ผมห่วงผลกระทบต่อนักเรียนที่ต้องไปเรียนชดเชยภายหลัง และการสร้างโรงเรียนใหม่ขึ้นมาแทนนั้นไม่ว่าจะเร่งรัดให้เร็วอย่างไร ก็ส่งผลกระทบต่อนักเรียนอยู่ดี? นายวิจิตรกล่าว

ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์

Valid XHTML 1.0 Transitional Valid CSS!
ทะเบียนพาณิชย์อีเลคทรอนิคส์ เลขที่ 8373549000215