แหล่งรวม ธุรกิจ บริษัท ห้างร้าน และ ข้อมูล การท่องเที่ยว ในแถบ อันดามัน
 
เข้าสู่ระบบ G! Builder
เลือกจังหวัด
ข่าวสาร ข่าวทั่วไป ในแถบ อันดามัน ( ภูเก็ต, กระบี่, ระนอง, ตรัง, พังงา, สตูล )

ตรัง, ญาติ ?จ่าแดง? เตรียมฟ้องร้องตำรวจตรัง ทำคดีวิสามัญจัดฉาก ( ข่าวตรัง )

ญาติเตรียมฟ้องร้องดำเนินคดี ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องคดีวิสามัญ ?จ่าแดง? ผู้ต้องหาคดีอุกฉกรรจ์อย่างโชกโชนทั่วภาคใต้ที่แหกด่านตรวจจนถูกจับตาย แต่มีข้อเท็จจริงว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้ก่อนที่จะเสียชีวิตแล้ว โดยผลการพิสูจน์ศพการเสียชีวิตของจ่าแดงนั้น เกิดขึ้นในขณะที่มีเครื่องพันธนาการ อยู่ที่ข้อมือทั้ง 2 ข้าง

จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายสังกัดของจังหวัดตรัง ได้ติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้าย จำนวน 5 คน ที่ใช้รถยนต์กระบะ เป็นยานพาหนะ โดย 1 ในนั้น เป็นมือปืนชื่อดัง ที่เคยก่อคดีอุกฉกรรจ์อย่างโชกโชนทั่วภาคใต้ จนถูกทางการขึ้นบัญชีดำ และติดตามจับกุมตัวมายาวนาน คือ จ.ส.ต.ชะลอ รามด้วง หรือ จ่าแดง อดีตผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.อ.สิเกา จังหวัดตรัง ที่ได้ขับรถกระบะฝ่าด่าน พร้อมทั้งใช้อาวุธสงครามยิง และปาระเบิดใส่รถเจ้าหน้าที่ เพื่อสกัดไม่ให้ติดตาม จนเกิดการปะทะกันขึ้นจากนั้น จนทำให้จ่าแดงถูกวิสามัญฆาตกรรมเสียชีวิตนั้น

สำหรับคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อให้ญาติมารับศพ รวมทั้งทรัพย์สินส่วนตัวของจ่าแดง แต่ญาติกลับพบความผิดปกติในการเสียชีวิต จึงได้ส่งศพของจ่าแดงไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งผลการผ่าพิสูจน์ของแพทย์ระบุออกมาชัดเจน ว่า การเสียชีวิตของจ่าแดงนั้น เกิดขึ้นในขณะที่มีเครื่องพันธนาการ ซึ่งมีลักษณะเป็นของแข็ง อยู่ที่ข้อมือทั้ง 2 ข้าง อย่างไรก็ตาม สุดท้ายญาติของจ่าแดง ก็ได้ยอมทำพิธีฌาปนกิจศพของจ่าแดงไป เมื่อต้นปี 2548 หลังเก็บศพไว้เป็นเวลานานประมาณ 1 ปี

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 23 ตุลาคม 2549 นายดำรงค์ ปัญญโชติกุล อดีตรองประธานสภา และสมาชิกสภาจังหวัด (ส.จ.) ตรัง เขตอำเภอกันตัง ซึ่งเป็นญาติจ่าแดง และรับเป็นทนายความให้กับญาติจ่าแดง กล่าวว่า ตนได้ทำการร้องคัดค้านการไต่สวนคำร้องคดีวิสามัญฆาตกรรม เลขที่ ช.05/2547 ตามที่พนักงานสอบสวนยื่นฟ้องต่อศาลไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากในขณะที่ญาติเดินทางไปรับศพ รวมทั้งทรัพย์สินส่วนตัวของจ่าแดง ที่ สภ.อ.สิเกา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ยึดได้จากศพของจ่าแดง อันประกอบไปด้วย กระเป๋าสะพาย 1 ใบ ภายในมีพระเครื่อง 1 องค์ และบุหรี่ ยี่ห้อกรองทิพย์ อีก 1 ซอง แต่ญาติจ่าแดงกลับรู้สึกสงสัยว่า ทำไมกระเป๋าใบนี้จึงมีความสะอาดสะอ้าน และไม่มีร่องรอยคราบสกปรก เหมือนอย่างที่ควรจะเป็น

ทั้งนี้ เพราะในวันเกิดเหตุวิสามัญฆาตกรรม หากจ่าแดงมีการหลบหนีการไล่ล่า และมีการยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง จ่าแดงคงจะต้องล้มลุกคลุกคลาน ทำให้กระเป๋าซึ่งสะพายติดตัวสกปรกเลอะเทอะ อย่างไรก็ตาม เนื่องจ่าแดงก็เป็นอดีตตำรวจในท้องที่อำเภอสิเกา จึงย่อมจะมีเพื่อนฝูงที่รักใคร่ชอบพอกันบ้าง เพราะคนเราใช่จะมีแต่ความไม่ดีเสมอไป โดยได้ออกมาให้ข้อมูลต่อญาติจ่าแดง ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้ก่อนที่จะเสียชีวิตแล้ว จึงทำให้ญาติยิ่งเกิดการเคลือบแคลงสงสัย ต่อการวิสามัญฆาตกรรมจ่าแดงมากขึ้น จนกระทั่งเมื่อได้ทำการตรวจสอบในภายหลังก็พบว่า จ่าแดงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้มาก่อนหน้านั้นแล้วจริงๆ ที่บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านห้วยไทร ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายต้นชด-เขาวิเศษ

นายดำรงค์ เปิดเผยว่า ในขณะที่จ่าแดงได้อาศัยรถจักรยานยนต์พ่วงข้างของชาวบ้าน 2 สามีภรรยา ในพื้นที่ ซึ่งมีอาชีพค้าขาย เพื่อใต้องการจะหลบหนีเข้าสู่ตัวเมืองตรัง แต่ในที่สุดจ่าแดงก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ ส่วน 2 สามีภรรยา ถูกจับแยกไปขังไว้ที่ สภ.ต.เขาวิเศษ

สำหรับที่จ่าแดงนั้น ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชุดหนึ่งเอาตัวไป จนกระทั่งมาพบว่ากลายเป็นศพ เนื่องจากถูกวิสามัญฆาตกรรม โดยมีการระบุว่า มีการต่อสู้ขัดขืนการจับกุม แต่ญาติจ่าแดงกลับมองว่าเหตุการณ์ทั้งหมด เป็นการจัดฉากของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมี 2 สามีภรรยา และผลการผ่าพิสูจน์ยืนยันการตาย จากแพทย์โรงพยาบาล มอ.เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ ที่จะช่วยสะสางคดีนี้ให้กับจ่าแดงได้

กระทั่งต่อมาเมื่อศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง ทางญาตินำโดยตน ซึ่งรับเป็นทนายความให้ ก็ได้ยื่นคัดค้านการไต่สวนคำร้องคดีนี้ทันที โดยที่ผ่านมา ได้มีการสืบพยานฝ่ายจำเลยไปแล้ว คือ แพทย์จากโรงพยาบาล มอ. ที่ทำการผ่าพิสูจน์ศพ ซึ่งในวันที่ 26 และ 27 ตุลาคมนี้ ศาลก็ได้นัดไต่สวนคำร้องคัดค้านคดีนี้อีกครั้ง โดยตนยังมีพยานฝ่ายจำเลยที่จะให้ปากคำอีก 5 ปาก ซึ่งประกอบไปด้วย ตนเอง แม่ของจ่าแดง ผู้เชี่ยวชาญในการใช้อาวุธปืนและวัตถุระเบิด และ 2 สามีภรรยาที่ถูกจับกุมได้พร้อมกับจ่าแดง เพราะจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ญาติทุกคน รวมทั้งตนเอง รู้สึกเสียใจและเศร้าใจมาก ต่อการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้ และยังเชื่อว่าเป็นการจัดฉากเพื่อวิสามัญฆาตกรรม เนื่องจากจ่าแดงมิได้มีการยิงต่อสู้ขัดขืน

?ผมไม่ทราบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำอย่างนั้นเพื่ออะไร และตรงกันข้าม ญาติทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า จะไม่เสียใจเลย หากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวจ่าแดง แล้วส่งเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ศาลเป็นผู้พิจารณาตัดสินการกระทำผิด ทั้งนี้ ที่ผ่านมาก็ได้มีผู้หลักผู้ใหญ่หลายคน เข้ามาติดต่อกับฝ่ายญาติ เพื่อขอให้ไกล่เกลี่ยเรื่องนี้ พร้อมกับเสนอจะให้เงินก้อนหนึ่ง แต่ญาติทุกคนไม่ยินยอม และหากคดีนี้สิ้นสุดเมื่อไหร่ และศาลตัดสินออกมาว่า จ่าแดงถูกฆ่าตายขณะที่มีเครื่องพันธนาการมือทั้ง 2 ข้างจริง ฝ่ายญาติจ่าแดงก็จะฟ้องร้องดำเนินคดี ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม และให้เป็นบรรทัดฐานต่อไป?

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์

Valid XHTML 1.0 Transitional Valid CSS!
ทะเบียนพาณิชย์อีเลคทรอนิคส์ เลขที่ 8373549000215