ภูเก็ต, ประกันสังคม ตั้งกองทุนช่วยเหลือทายาทเหยื่อ สึนามิ ( ข่าวภูเก็ต )

ตั้งกองทุนประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทน ช่วยเหลือทายาทผู้ประกันตน ผู้ประสบภัยสึนามิ 722 ราย ด้านประกันสังคมภูเก็ตเผย ยอดผู้มาทำประกันสังคมเป็นอันดับ 1 ในภาคใต้

นายสมศักดิ์ อภิวันทนกุล ประกันสังคมจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือผู้ประกันตนที่เสียชีวิต สูญหาย และพิการจากเหตุการณ์สึนามิถล่ม เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2547 ว่า จากเหตุการณ์สึนามิถล่มที่ผ่านมาทำให้ลูกจ้าง ผู้ประกันตนได้รับสิทธิความคุ้มครองจากกองทุนประกันสังคม และกองทุนเงินทดแทนในกรณีเสียชีวิต สูญหาย ทุพพลภาพ จำนวน 722 ราย


จากการสูญเสียดังกล่าวทำให้ลูกหลานของผู้ประกันตนได้รับความเดือดร้อน เพราะขาดเสาหลักของครอบครัว มีหลายรายที่ลูกยังเล็กและอยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียน และกลายเป็นภาระของสังคมหรือญาติที่บางคน มีรายได้ไม่เพียงพอทำให้ลูกหลานของผู้ประกันตนหลายรายต้องเสียโอกาส

ดังนั้น สำนักงานประกันสังคมจึงได้จัดตั้งมูลนิธิประกันสังคมภายใต้มูลนิธิคุณาการในพระราชูปถัมภ์ เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่บุตรของผู้ประกันตนที่เสียชีวิต สูญหาย และพิการเนื่องจากประสบธรณีพิบัติภัย รวมทั้งประสบภัยอันเนื่องจากการกระทำของผู้ก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดภาคใต้ด้วย

ในส่วนของบุตรของผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิ ผู้มีสิทธิที่จะได้รับเงินช่วยเหลือจะต้องเป็นผู้ประกันตนมาแล้วไม่น้อยกว่า 30 วัน ซึ่งเป็นการช่วยเหลือต่อยอดจากสิทธิประประโยชน์ 3 กรณีดังกล่าวที่สำนักงานประกันสังคมได้จ่ายไปแล้ว โดยจ่ายเป็นเงินเหมาจ่ายในอัตราปีละ 5,000 บาท ต่อบุตร 1 คน สำหรับบุตรอายุไม่เกิน 15 ปี บริบูรณ์ ได้คราวละไม่เกิน 2 คน

ทั้งนี้ ผู้ประกันตนที่มีบุตรอยู่ในอุปการะหรือบุคคล ซึ่งอุปการะบุตรของลูกจ้างหรือผู้ประกันตน สามารถยื่นขอรับเงินช่วยเหลือได้ ที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัดเขตพื้นที่/จังหวัด ทั่วประเทศ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2549 นี้เป็นต้นไป

สำนักงานประกันสังคมจะพิจารณาคำตอบตามหลักเกณฑ์ และคุณสมบัติ อาทิ ต้องเป็นประกันหรือผู้ประกันตนที่ประสบหรือได้รับผลกระทบจากธรณีพิบัติภัย ในเขตจังหวัดระนอง ตรัง พังงา ภูเก็ต และสตูล ลูกจ้างหรือผู้ประกันตนมาแล้วไม่น้อยกว่า 30 วัน ก่อนวันที่ 27 ธ.ค.2547 (การนับให้นับย้อนขึ้นไป 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค.2547 นั่นต้องเป็นลูกจ้างหรือผู้ประกันตนตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย.2547 ขึ้นไปจึงจะมีสิทธิ) ผู้ทุพพลภาพหรือตายหรือสูญหายในช่วงระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค.2547 - 25 ม.ค.สูญหายมาแล้ว จากเงินกองทุนทดแทนหรือกองทุนประกันสังคม

บุตรที่ได้รับความช่วยเหลือต้องเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายที่มีอายุไม่เกิน 15 ปีบริบูรณ์ของลูกจ้างหรือผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และต้องเกิดก่อนลูกจ้างหรือผู้ประกันตนทุพพลภาพ หรือตาย หรือสูญหาย และหากคุณสมบัติครบถ้วนจะโอนเงินเข้าบัญชีของผู้มีสิทธิต่อไป

นายสมศักดิ์ ยังได้กล่าวต่อไปถึงจำนวนของลูกจ้างที่เข้าสู่ระบบประกันสังคมของจังหวัดภูเก็ตว่า สำหรับจังหวัดภูเก็ต มีลูกจ้างเข้าสู่ระบบประกันสังคมมากเป็นอันดับหนึ่งเมื่อเทียบกับจังหวัดอื่นๆ ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ โดยในรอบปีที่ผ่านมาจนถึงเดือน ก.ย.2549 ปรากฏว่า ผู้ประกันตน หรือลูกจ้างมาประกันสังคม จำนวน 101,998 คน หากเทียบกับสาขาใน 14 จังหวัดภาคใต้ ทำให้จังหวัดภูเก็ต มีผู้ประกันตนมากที่สุด เนื่องจากทางประกันสังคมให้สิทธิประโยชน์หลายกรณี อาทิ กรณีว่างงาน กรณีชราภาพอีกด้วย

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์