ภูเก็ต, อดีต ส.ส.ภูเก็ต-สมาชิกพรรค ปชป.ภูเก็ตเฮ นักธุรกิจเชื่อหลังวันนี้ไม่วุ่นวายเศรษฐกิจดี ( ข่าวภูเก็ต )

อดีต ส.ส.ภูเก็ต และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ในภูเก็ตเฮ หลังคณะตุลาการฯไม่ยุบพรรค ขณะที่นักธุรกิจทั้งภูเก็ตและพังงา เชื่อว่า หลังจากวันนี้ที่มีความชัดเจนแล้ว และไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายขึ้น เศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศจะดีขึ้นเรื่อยๆ

นายชวนะ เกียรติชวนะเสวี รองประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นสมาชิกของพรรคประชาธิปัตย์ น้อมรับคำวินิจฉัยของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว และเชื่อว่า การที่คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตัดสินไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ทำอะไรผิด ต่อสู้เพื่อเผด็จการมาโดยตลอดอยู่แล้ว เหตุผลและหลักฐานที่พรรคนำเสนอนั้น เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ทำถูกต้องอยู่แล้ว และคิดว่าหลังจากนี้พรรคจะทำงานเพื่อประเทศชาติต่อไป

นายชวนะ ยังกล่าวในฐานะรองประธานหอการค้าภูเก็ต ภายหลังจากที่มีความชัดเจนในเรื่องการยุบหรือไม่ยุบพรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรคในวันนี้ และจัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น เพราะเศรษฐกิจของประเทศขึ้นอยู่กับการเมือง เมื่อการเมืองนิ่งนักลงทุนก็จะเกิดความมั่นใจและเข้ามาลงทุน ก็จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นตามไปด้วย และเชื่อว่า ในไตรมาส 3 และ4 ของปีนี้เศรษฐกิจของไทยจะดีขึ้นอย่างแน่นอน

ขณะที่ นายสุวิทย์ เสงี่ยมกุล อดีต ส.ส.ภูเก็ตเขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การตัดสินของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ ถือว่าให้ความยุติธรรมกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ยึดหลักการทำงานที่มีหลักการ และในส่วนของสมาชิกพรรคคนอื่นในพื้นที่ภูเก็ตเคารพการตัดสิน

ในส่วนของอดีตหัวหน้าพรรค ก็ย้ำให้สมาชิกยอมรับและเคารพการตัดสินของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และมีการเฝ้าติดตามการตัดสินตลอดเวลาอย่างใก้ลชิด มีการประสานพูดคุยกันทางโทรศัพท์ ซึ่งทุกคนก็ดีใจที่ศาลยึดหลักนิตินัยในการตัดสินคดีดังกล่าว

ด้าน นางศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ ชินวัตร อดีตผู้สมัครภูเก็ตเขต 1 พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ตนได้เดินทางไปร่วมฟังคำตัดสินของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่พรรคไทยรักไทย ก็ยินดีด้วยกับพรรคประชาธิปัตย์ และคงต้องรอดูผลของพรรคไทยรักไทยต่อไปว่าจะตัดสินออกมาเป็นอย่างไร

นายประเสริฐ จันทร์ผลงาม ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดพังงา กล่าวว่า ในใจก่อนที่จะมีการตัดสินภาคเอกชนหลายคน มองว่า การเมืองในขณะนี้เกิดความตึงเครียดมาก หากมีการล้างไพ่ น่าจะเป็นทางออกที่ดีเพื่อให้เกิดความใสสะอาดในการเลือกตั้ง

อย่างไรก็ตาม หลังการตัดสินของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญสิ้นสุดลง ทั้งสองพรรคจะไม่เกิดความวุ่นวายขึ้น เชื่อว่า จะเกิดผลดีกับประเทศไทยทั้งทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจ เพราะสถานการณ์ที่ไม่คลี่คลายในขณะนี้ ได้ส่งผลเสียต่อการลงทุนเละเศรษฐกิจของประเทศ นักลงทุนชาวต่างชาติไม่กล้าตัดสินใจเข้ามาลงทุน เพราะไม่เชื่อมั่นที่การเมืองไม่นิ่ง แต่หากการเมืองนิ่ง เชื่อว่า เศรษฐกิจและการลงทุนจะดีขึ้นอย่างแน่นอน

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์