แหล่งรวม ธุรกิจ บริษัท ห้างร้าน และ ข้อมูล การท่องเที่ยว ในแถบ อันดามัน
 
เข้าสู่ระบบ G! Builder
เลือกจังหวัด
ข่าวสาร ข่าวทั่วไป ในแถบ อันดามัน ( ภูเก็ต, กระบี่, ระนอง, ตรัง, พังงา, สตูล )

ภูเก็ต, ศูนย์ประชุมฯ ภูเก็ต ให้เอกชนลงทุนแทนรัฐ ( ข่าวภูเก็ต )

ข่าวภูเก็ต : ศูนย์ประชุมฯ ภูเก็ต ให้เอกชนลงทุนแทนรัฐ
รมต.ท่องเที่ยวดูสถานที่สร้างศูนย์ประชุมที่ภูเก็ต

“สุวิทย์ ยอดมณี” รมต.การท่องเที่ยวฯหารือหน่วยงานเกี่ยวข้องภาครัฐ-เอกชนสถานที่ก่อสร้างศูนย์ประชุมฯที่ภูเก็ตพร้อมลงพื้นที่ไม้ขาวดูที่ราชพัสดุ 3 แปลง ขณะที่เอกชนในภูเก็ตต้องการให้เอกชนเข้ามาลงทุนโดยรัฐเข้ามาสนับสนุน เผยเอกชนภูเก็ตมีที่ดินพร้อมลงทุนแล้ว 10 กว่าแปลง เกรงให้รัฐลงทุนยืดเยื้ออีกเหมือนที่ผ่านมาที่ไม่เกิดสักที ขณะที่รมต.ท่องเที่ยวฯเผยรัฐไม่มีเงินลงทุน พร้อมหนุนให้เอกชนลงทุนพร้อมเสนอครม.ให้เสร็จกระบวนการภายในรัฐบาลชุดนี้

วันนี้ (28 พ.ค) ดร.สุวิทย์ ยอดมณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยนางศิริพร มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ผู้แทนสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายธำรงค์ ทองตัน หัวหน้าสำนักงานธนารักษ์เขตพื้นที่ภูเก็ต นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทย ไอเอ็นจี จำกัด ประเทศไทย ซึ่งเป็นบริษัทที่สนใจเข้ามาระดมทุนโครงการสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติที่จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่บริเวณบ้านท่าฉัตรไชยหาดไม้ขาว ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อตรวจดูสภาพที่ดินราชพัสดุแปลง ที่ภก.153 ซึ่งจะใช้เป็นที่ดินที่จะรองรับในการสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติ 3 จุด

ประกอบด้วยแปลงที่ 1 เป็นที่ดิน อยู่บริเวณหัวเกาะของจังหวัดภูเก็ต เนื้อที่จำนวน 350 ไร่ เป็นที่ดินที่ติดชายทะเลและอุทยานแห่งชาติสิรินาถ

แปลงที่ 2 เป็นที่ดินที่อยู่ในบริเวณเดียวกันขนาดพื้นที่ 150 ไร่ ไม่ติดทะเล ด้านหลังติดสุสานไม้ขาว และแปลงสุดท้าย เป็นที่ดินที่อยู่ในบริเวณเดียวกับโครงการสร้างสปอร์ตคอมเพล็กซ์ ซึ่งเป็นบริเวณที่จะสร้างเป็นโรงแรมและที่พักมีพื้นที่ติดชายทะเล

หลังจากที่ตรวจดูความพร้อมและศักยภาพของสถานที่ทั้ง 3 แปลงแล้ว ดร.สุวิทย์ ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องภาครัฐและภาคเอกชน จากส่วนกลางและในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อรับฟังความคิดเห็นและพิจารณาความเหมาะสมของพื้นที่ สำหรับการก่อสร้างศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้านิทรรศการนานาชาติจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งเพื่อพิจารณาแนวทางการส่งเสริม และสนับสนุนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการก่อสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติจังหวัดภูเก็ต ณ โรงแรมอินดิโก้เพิร์ล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

นายธำรง ทองตัน หัวหน้าสำนักงานธนารักษ์เขตพื้นที่ภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับที่ดินราชพัสดุแปลงที่ภก.153 เป็นที่ดินราชพัสดุแปลงใหญ่ที่สุดในจังหวัดภูเก็ต มีเนื้อที่ประมาณ 2,800 ไร่ สำหรับที่ดินที่เสนอเป็นตัวเลือกมี 3 จุด

ประกอบด้วย แปลงที่ 1 เป็นที่ดินที่อยู่บริเวณหัวเกาะ เนื้อที่ 350 ไร่ เป็นที่ดินที่รัฐบาลชุดที่แล้วต้องการที่จะใช้ โดยที่ดินดังกล่าวอยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติสิรินาถ และมีที่ดินติดชายทะเลตลอดแนว ถ้าเลือกที่ดินแปลงนี้ต้องมีการกันพื้นที่ออกจากอุทยานฯ ซึ่งตอนนี้อุทยานฯยังไม่ได้มีการประกาศเรื่องของแนวเขต
นอกจากนั้น ที่ดินแปลงนี้ยังติดเรื่องของกฎหมายผังเมือง ที่กำหนดให้บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่สีเขียว แต่สามารถขอแก้เรื่องของผังเมืองได้

ที่ดินแปลงที่ 2 เป็นที่ดินที่อยู่ทางตอนเหนือของเกาะภูเก็ต ทุกครั้งที่มีการพูดเรื่องของการสร้างศูนย์ประชุมฯจะมีการนำเสนอที่ดินแปลงนี้เข้าสู่การพิจารณา โดยมีพื้นที่ประมาณ 150 ไร่ ไม่มีพื้นที่ติดทะเล และด้านหลังของที่ดินอยู่ติดกับสุสานไม้ขาว

แปลงที่ 3 เป็นที่ดินราชพัสดุที่อยู่ในโครงการสปอร์ตคอมเพล็กซ์ ซึ่งขณะนี้ธนารักษ์ได้อนุญาตให้สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยวใช้แล้ว และมีที่ดินอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งจะใช้เป็นสถานที่ในการก่อสร้างที่พักภายในโครงการ โดยมีพื้นที่บางส่วนติดทะเล

หลังจากรัฐได้เปิดโอกาสให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แสดงความคิดเห็น ซึ่งภาคเอกชนในภูเก็ตต้องการที่จะให้เอกชนเข้ามาลงทุนโดยรัฐเข้าไปสนับสนุนในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน เพราะหากรอรัฐบาล คิดว่าอีกนานกว่าที่ศูนย์ประชุมฯเกิดได้ โดยที่ผ่านมารอมากว่า 10 ปีแล้ว

นายพัฒนพงศ์ เอกวานิช ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ต กล่าวว่า มีเอกชนหลายรายในภูเก็ตทั้งที่เป็นคนไทยและต่างชาติ สนใจที่จะเข้ามาลงทุนศูนย์ประชุมฯและน่าจะให้ลงทุนในที่ดินของเอกชน ซึ่งคิดว่ามีเจ้าของที่ดิน 7-8 ราย ที่สนใจลงทุนและมีที่ดินเป็น 10 แปลง ที่สามารถนำมาลงทุนได้และคิดว่าเหมาะสมกว่าที่ราชพัสดุ เพราะที่ราชพัสดุทั้ง 2แปลงอยู่ห่างจากตัวเมืองจนเกินไป ศูนย์ประชุมฯน่าจะอยู่ในจุดกึ่งกลางระหว่างเมืองกับสนามบิน ทำให้ไม่สะดวกในการเดินทาง และอยากให้ททท.สรุปที่ดินแต่ละแปลงว่ามีความเหมาะสมอย่างไร

ร.ท.ภูมิศักดิ์ หงส์หยก ประธานชมรมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต กล่าวว่า คนภูเก็ตต้องการให้ศูนย์ประชุมฯเกิดเร็วที่สุดใน 2-3 ปี ที่ผ่านมาเกิดปัญหาไม่สามารถตกลงกันได้ในสถานที่ตั้ง ระหว่างส่วนกลางกับคนท้องถิ่นภูเก็ต ซึ่งขณะนี้มีเอกชนสนใจเข้ามาลงทุน ทั้งในที่ดินและเป็นของเอกชนและที่ราชพัสดุ แต่ที่เอกชนไม่กล้าตัดสินใจลงทุน เพราะยังไม่มั่นใจในนโยบายของรัฐ ว่าจะดำเนินการกับเรื่องนี้อย่างไร อยากจะให้รัฐเข้ามาสนันสนุนในด้านโครงสร้างพื้นฐานและการส่งเสริมการลงทุน และเอกชนเจ้าของที่ดินในภูเก็ตมีที่ดินพร้อม ที่จะเสนอให้ลงทุนทั้งแปลง 150 ไร่ และแปลง 250 ไร่

นายไมตรี นฤขัติพิชัย นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวภูเก็ต กล่าวว่า โครงการศูนย์ประชุมฯที่ภูเก็ตมีการพูดคุยกันมานานมาก อยากให้รัฐบาลมีความชัดเจนในเรื่องนี้ว่ารัฐบาลจะลงทุนสร้างเอง หรือจะให้เอกชนเข้ามาลงทุน หากให้เอกชนเข้ามาลงทุนจะได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และหากให้รัฐเข้ามาลงทุนไม่รู้กี่ปีถึงจะได้เกิด

ด้านนายวิจิตร ณ ระนอง ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย กล่าวว่า การเลือกสถานที่ก่อสร้างนั้นจะต้องคำนึงถึงหลายๆ ด้าน เช่น การขนส่งผู้เข้าร่วมประชุมจากจุดที่มีโรงแรมมากที่สุดไปยังศูนย์ประชุมฯ ความพร้อมของที่ดินรวมทั้งการขยายอนาคต ความพร้อมในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ผู้ที่จะมาลงทุนและผู้บริหาร เป็นต้น

ขณะที่ดร.สุวิทย์ ยอดมณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า รัฐบาลไม่มีเงินที่จะมาลงทุนก่อสร้างศูนย์ประชุมฯ หากเอกชนเข้ามาลงทุนก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน และการสนับสนุนการลงทุนจากบีโอไอ ส่วนเรื่องที่ดินของรัฐหากเอกชนไม่สนในก็ต้องตัดออกไป และอยากให้เอกชนที่สนใจลงทุนได้ตัดสินใจในเรื่องนี้โดยด่วนเพื่อที่จะเสนอขอความเห็นชอบคณะรัฐมนตรีในการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในรัฐบาลชุดนี้

อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมตอนท้ายได้ข้อยุติว่า ให้จังหวัดภูเก็ตเป็นเจ้าภาพในการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด เพื่อประกาศเชิญชวนเอกชนเข้ามาลงทุน และพิจารณาคัดเลือกให้เหลือเพียง 1 แปลง ภายใน 60 วัน เสนอกระทรวงฯ และคณะรัฐมนตรีต่อไป

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์

Valid XHTML 1.0 Transitional Valid CSS!
ทะเบียนพาณิชย์อีเลคทรอนิคส์ เลขที่ 8373549000215